🚅🇨🇳 รีวิว 2024! สรุปรวมวิธีนั่งรถไฟความเร็วสูงจากเซี่ยงไฮ้ไปหางโจว ฉบับ 2U จับมือเที่ยวเลี้ยวไม่มีหลง‼️ เช็กอินสถานที่ยอดฮิต ชมความงามของทะเลสาบและธรรมชาติ ไหว้พระวัดดังแบบสายมู พร้อมได้รูปไว้ลงอวดโซเชียลอีกเป็นอัลบั้ม ✨
🥳 ตะลุยเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้แบบจุใจแล้ว อยากสัมผัสบรรยากาศสงบๆ ให้ธรรมชาติฮีลใจ นั่งรถไฟความเร็วสูงต่อมาที่ “หางโจว (杭州)” กันได้เลย 🌳 ใช้เวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย กับเมืองเก่าแก่ 1 ใน 6 ของประเทศจีนที่ได้รับการขนานนามว่า “สวรรค์บนดิน” ☁️ ที่เราจะได้สัมผัสครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม ที่คล้องไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กระซิบว่าย่านช้อปปิ้งและตึกชมแสงสีที่นี่ก็ตระการตาไม่แพ้เซี่ยงไฮ้เช่นกัน 🌈
✅ โพสต์นี้ 2U จะพาไปรีวิวตั้งแต่การจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงล่วงหน้า, ทำยังไงหากโดนยกเลิกตั๋ว, วิธีการเดินทางจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูง, คำแนะนำในการเดินทาง, วิธีอ่านตั๋วและป้ายต่างๆ ในสถานี, บรรยากาศภายในรถไฟ และวิธีเดินทางจากสถานีรถไฟเข้าเมืองหางโจว ฉบับจับมือเที่ยวเลี้ยวไม่มีหลง!!! 🔥 ดูแพลนเซี่ยงไฮ้จบแล้ว แวะมาต่อที่โพสต์นี้เพื่อเตรียมพร้อมไปยังหางโจวกันได้เลย 💨
เมื่อผ่านจุดตรวจแล้ว ก็จะเข้าสู่โถง Waiting Area สามารถเข้าไปหาที่นั่งรอแถวหน้าประตูทางลงชานชาลาเพื่อรอรถไฟเดินทางต่อกันได้เลย!!!
สังเกตเลขที่ประตูลงชานชาลาให้ดีๆ เพราะประตูเดียวจะใช้ 2 ชานชาลานะ (18B และ 19B ใช้ด้วยกัน)
โดยประตูทางเข้าไปที่ชานชาลาต้องสแกนพาสปอร์ตและ ตั๋วรถไฟก่อนเข้าอีกที เตรียมตัวให้พร้อมด้วยจะได้ไม่ต้องวุ่นตอนจะเข้าประตู
– ชั้นที่ 2: มี 5 ที่นั่ง/แถว ที่นั่งแคบ และที่วางของน้อย
– ชั้นที่ 1: มี 4 ที่นั่ง/แถว ที่นั่งกว้าง ยืดขาได้สบาย
– ชั้นธุรกิจ: มี 3 ที่นั่ง/แถว มีห้องรับรอง และที่นั่งสามารถปรับนอนได้
เราเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงแบบที่นั่งชั้นที่ 2 เดินเข้ามาที่ตู้โดยสารก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้เลย ที่นั่งจะแบ่งเป็น 2-3 เบาะนั่ง ขนาดกว้างขวางพอดีไม่แคบเกินไป ที่วางเท้าด้านหน้าระยะพอได้ไม่อึดอัดไป แต่วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แล้วเกะกะไม่เบาเลย
และจะมีชั้นวางของบนหัว ซึ่งวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้นะ แต่ระวังตอนยกขึ้น-ลงให้ดี เพราะถ้าคนเยอะหน่อยก็จะวุ่นวายสุดๆ ต้องรีบทำเวลาจ้าาา
– อันดับแรกตั้งสติให้ดีก่อน แค่ถูกยกเลิกตั๋วก็เลื่อนเวลาเอาได้
– ลองค้นหาขบวนรถเที่ยวอื่นๆ ดู เพื่อเปลี่ยนเวลาเดินทางจากแอปฯ หรือเว็บที่จองมาก่อน ถ้ายังเปลี่ยนหรือเลื่อนไม่ได้ ให้ติดต่อทางเอเย่นต์ที่จองตั๋วล่วงหน้าเอาไว้ก่อน ว่าสามารถช่วยเหลืออะไรได้มั้ย?
– ถ้าเอเย่นต์ไม่สามารถช่วยได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจ้าา!! ให้ไปที่ Railway Station Ticket Office ที่ใกล้ที่สุดเพื่อติดต่อจนท.ขอเลื่อนตั๋ว แนะนำที่ Shanghai Railway Station Ticket Office เพราะอยู่ใกล้สุด (จากสถานี East Nanjing Rd.)
– อ่านรีวิวนี้ให้ละเอียดเลยนะ ทำตามที่เราแนะนำไว้ได้เลย
ถ้าจองผ่านเคาน์เตอร์แบบเราสามารถไปจองได้ที่ Railway Station Ticket Office ได้เลย ส่วนตัวแนะนำที่ Shanghai Railway Station Ticket Office เพราะอยู่ใกล้สุด (จากสถานี East Nanjing Rd.) และมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ หรือจะจองผ่านแอปฯ ก็ได้นะ
**มีรถไฟไป Hangzhou จากที่สถานีนี้เหมือนกัน แต่มีแค่วันละ 2 ขบวนเท่านั้น!
โดยเราจะเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินจากสถานี People’s Square | 人民广场 ไปสู่สถานี Shanghai Railway Station | 上海火车站 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที ค่าโดยสาร 3 RMB
โดยเราจะเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินจากสถานี People’s Square | 人民广场 ไปสู่สถานี Shanghai Railway Station | 上海火车站 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที ค่าโดยสาร 3 RMB
เดินตรงลงผ่านอุโมงค์ทางลอดไปอีกฝั่งนึง จะเจอลานกว้างมีทางเข้าสวน People’s Park กับทางเข้ารถไฟใต้ดิน 2 ทาง ให้เลี้ยวไปทางซ้ายเข้าประตู สถานี People’s Square | 人民广场 EXIT(19) เดินลงไปตามทาง
**ถ้ามาจาก EXIT1 จะต้องเดินผ่านหน้าสถานีรถไฟ Shanghai Railway Station ให้เลี้ยวขวาไปทาง South Entrance แต่ไม่ต้องไปเข้าแถวคิวเข้าสถานีรถไฟใหญ่นะ เพราะเราจะไปที่ตึก Shanghai Railway Station Ticket Office เพื่อซื้อตั๋วเท่านั้น!
แต่เดี๋ยวก่อนนน…. เค้ามีจนท.ที่พูดภาษาอังกฤษได้อยู่นะ ทำใจกล้าเดินเข้าคิวไปรอติดต่อซื้อตัว เลื่อนเปลี่ยนตั๋วได้เลยยย!! ปล.อย่าลืมหยิบพาสปอร์ตออกมาด้วยล่ะ
สำหรับกรณีของเรา ขบวนรถที่จองล่วงหน้ามาจากไทยถูกยกเลิกกระทันหันก่อนเดินทาง 1 วัน ทางเอเย่นต์ที่รับจองแจ้งมาทางอีกเมล์ว่าให้ติดต่อขอเปลี่ยนตั๋วที่เคาน์เตอร์สถานีรถไฟ
แต่ด้วยปัญหาการสื่อสารของเรา สรุปคุยไม่รู้เรื่องค้าบบบบ!!!
ใดๆ เราต้องเดินทางไปหางโจวในวันนั้น เพราะจองโรงแรมไว้ตามแพลนเรียบร้อย จะเลื่อนจะย้ายก็ลำบาก…
มีการจำกัดปริมาณสัมภาระที่สามารถถือขึ้นรถไฟได้สูงสุด 20 กก./ท่าน ขนาดสัมภาระไม่เกิน 130 ซม. (วัดขนาดจากความยาว+กว้าง+สูง) แต่วันที่เราไปหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ + ใบเล็ก + เป้สะพายหลัง ก็ไม่มีการตรวจเช็กนน.นะ
สรุปพี่พนง. ช่วยออกตั๋วใหม่ให้เราได้เรียบร้อย!! ซึ่งราคาตั๋วที่ซื้อที่เคาน์เตอร์เองถูกกว่าซื้อผ่านหน้าเว็บจองออนไลน์ที่โดนหักค่าธรรมเนียมจองใบละ 97 บ.
แถมยังมารู้ทีหลังว่าตั๋วที่จองออนไลน์เอาไว้ ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับยกเลิกตั๋วอีกที่นั่งละ 70 บ. (แต่ถ้าแจ้งที่เคาน์เตอร์จะไม่โดนค่าธรรมเนียมเพิ่ม… สรุปเลยโดนหักค่าโง่ไปอีกดอกนึงค้าบบบ
อ้อ… ตั๋วรถไฟที่ได้จะระบุเป็น Shanghaihongqiao (เซี่ยงไฮ้หงเฉียว) to Hangzhoudong (หางโจวตะวันออก) แบบนี้นะ
– แนะนำให้เผื่อเวลาไปถึงสถานีรถไฟ Shanghai Hongqiao ก่อนเวลาเดินทางสัก 1-2 ชม. เพราะสถานีรถไฟโคตรใหญ่!! เดินจากสถานีรถไฟใต้ดินไปถึงที่สถานีก็ใช้เวลาพักใหญ่เลย
– ก่อนเข้าประตูทางเข้าสถานีรถไฟ จะมีด่านสแกนกระเป๋า + ตรวจพาสปอร์ต ก่อนเข้าใช้เวลานิดนึง (แต่ถ้าคนเยอะก็นานนะ)
– ก่อนลงไปที่ชานชาลาขึ้นขบวนรถ มีด่านตรวจตั๋ว + พาสปอร์ต อีกทีนึง ด่านนี้ล่ะที่จะลน!!! เพราะประตูเปิดให้ผ่านไปขึ้นรถไฟก่อนเวลาออกรถประมาณ 15 นาทีเท่านั้นจ้าาา!!!
– พอใกล้ๆ เวลาประตูจะเปิดแล้ว บรรดาผดส.ชาวจีนเค้าจะมารอต่อคิวกันยาวเหยียดเลย รีบไปรอต่อกับเค้าก็ดีนะ เพราะขบวนรถด้านในค่อนข้างยาวเลยล่ะ ใช้เวลาเดินพอสมควร
– สัมภาระที่ติดตัว ใครลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถ้าไม่ได้นั่งหน้าสุด หรือ ท้ายสุด ก็จะหาที่วางลำบากหน่อย ด้านบนที่นั่งยกขึ้นไปวางได้ (ถ้ามั่นใจว่ายกกระเป๋าตัวเองไหว)
ถ้าของเยอะกลัวลำบาก ซื้อตั๋วชั้น 1 หรือ Business ดีกว่านะ
***Line2 สายสีเขียวไม่ต้องเดินไปขึ้นรถไกลเท่า Line10 สายสีม่วงอ่อน ส่วนระยะเวลาเดินทางกับค่าโดยสารก็พอๆกัน แนะนำขึ้น Line2 ไปเลยก็ได้นะ***
แต่…วันที่เราไปรีวิวดันมึนขึ้นรถไฟ Line10 สายสีม่วงอ่อนแทน 555 เลยขออนุญาตรีวิวการเดินทางเส้นนี้แทนนะ!!
***ให้เช็กรถไฟนิดนึงก่อนนะ ว่าขบวนที่นั่งนั้นวิ่งตรงไปที่สถานี Hongqiao เลยมั้ย?
เพราะรถไฟสายนี้ จะมีทางแยกอยู่ที่สถานี Longxi Road | 龙溪路 ซึ่งพอถึงสถานีนี้ ขบวนรถจะวิ่งไป Hongqiao กับไป Hangzhong Rd. สลับกัน ถ้านั่งถูกขบวนก็วิ่งตรงต่อไปถึงที่ Hongqiao ได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนรถ
แต่ถ้านั่งมาไม่ถูกขบวน ต้องลงที่สถานี Longxi Road | 龙溪路 เพื่อเปลี่ยนขบวนรถ (Line10 เหมือนเดิม) เพื่อวิ่งไปต่อให้ถึงสถานี Hongqiao
*** วิธีสังเกต: ให้ดูที่ป้ายบอกทางในขบวนรถที่อยู่เหนือประตู จะมีจุดสีเขียวบอกเส้นทางว่าขบวนนี้วิ่งไปสุดที่ไหน หรือรอฟังเสียงประกาศในขบวนรถก็ได้นะ แต่ดูที่ป้ายจะง่ายกว่า
ส่วนใครที่ต้องลงเปลี่ยนขบวนรถก็ไม่ต้องตกใจนะ… แค่เดินลงไปรอที่ชานชาลาเดิม รอรถไฟขบวนถัดไปแปบเดียวก็เดินขึ้นไนั่งต่อได้เลย (ถ้ากลัวพลาดก็ดูป้ายบนชานชาลา จะมีป้าย LCD บอกอยู่ด้วยนะ)
ขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงตรงนี้แล้วยังไม่ถึงชั้น 2F นะ! ต้องเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกชั้นนึง
เดินเลี้ยวตามทางมานิดเดียวก็จะเจอจุดตรวจ Identity & Security Check ก่อนที่จะเข้าไปโถง Waiting Area ของสถานีแล้ว มาถึงตรงนี้ก็เตรียมตั๋วรถไฟความเร็วสูง + พาสปอร์ตไว้ให้พร้อมด้วยนะ!
เมื่อผ่านจุดตรวจเข้าไปแล้ว ก็หาที่นั่งรอแถวหน้าประตูทางลงชานชาลา เพื่อรอรถไฟเดินทางต่อกันได้เลย!!!
ตรวจเช็กข้อมูลให้ดี จะได้ไม่ขึ้นผิดขบวนนะ ยิ่งหากไปช่วงที่คนเยอะๆ หน่อย บอกเลยว่าเดินหาให้ควั่กแน่นอน
ภายในสถานีก็จะมีที่นั่ง พร้อมร้านอาหาร ร้านของฝากต่างๆ ให้แวะซื้อเติมพลังระหว่างรอรถไฟมาได้ ซึ่งตอนที่เราไปคือคนเยอะมากกก หากได้ที่นั่งแล้วคือต้องจองไว้ดีๆ เลย เพราะผดส.จีนเค้าเตรียมเข้าชาร์จทันทีหากเห็นว่าเก้าอี้ว่าง หรือถ้าเห็นมีแต่กระเป๋าจองไว้แต่ไม่มีคนนั่ง เค้าก็พยายามเข้าชาร์จเหมือนกัน ดังนั้น รักษาที่นั่งตัวเองไว้ดีๆ นะ
ซึ่งบนชั้น 2 ของสถานีก็จะมีร้านอาหาร ของกิน ให้ได้แวะเติมพลังคลายหิวด้วยนะ ถ้ามาถึงก่อนเวลาเยอะหน่อย ก็เอ็นจอยอีทติ้งรัวๆ ไปฮะ!!
ประตูทางเข้าชานชาลาจะเปิดก่อนเวลาขบวนรถไฟออกแค่ 15 นาที เท่านั้นนะ!! รีบหน่อยก็ดีจ้าา!! สังเกตเลขที่ประตูลงชานชาลา เช็กให้ดีๆ ก่อนนะว่าถูกชานชาลามั้ย เพราะประตูเดียวจะใช้ 2 ชานชาลาเลยจ้าาา (18B และ 19B ใช้ด้วยกัน)
ประตูทางเข้าไปที่ชานชาลาต้องสแกนพาสปอร์ตและ ตั๋วรถไฟก่อนเข้าอีกที เตรียมตัวให้พร้อมด้วยจะได้ไม่ต้องวุ่นตอนจะเข้าประตู
เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้ว ก็ลงบันไดเลื่อนลงมาที่ชานชาลาได้เลย หรือจะลงบันไดทางเดินข้างๆ ก็ได้ถ้ารีบมาก ^^” บอกเลยว่าคนเยอะวุ่นวายดีแท้!!
แนะนำว่าเดินไปแล้วขึ้นขบวนที่ประตูจะสะดวกกว่า เดินทะลุขบวนไปเรื่อยๆ ได้ยินว่าบางตู้ไม่มีประตูเปิดเชื่อมต่อกันจ้า!!
เดินลงมาที่ชานชาลาก็เหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีแล้วจ้าาา!! ชานชาลา 18 อยู่ฝั่งซ้ายมือ วิ่งไปที่ตู้ขบวนรถให้ไวเลย!!
ชั้นวางบนหัวสามารถวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้นะ แต่ระวังตอนยกขึ้น-ลงให้ดีหน่อยนะ
ที่หน้าประตูตู้โดยสารจะมีจอ LCD แจ้งรายละเอียดขบวนรถว่ากำลังวิ่งไปที่สถานีไหน ถ้าฟังเสียงแล้วไม่ชัวร์ ให้ดูจอนี้ไว้ดีๆ ด้วยล่ะ!
ผู้โดยสารชั้นพิเศษของวันนี้ ตีตั๋วยืนมาด้วยจ้า!! ถ้าช่วงไหนที่คนเยอะ ก็จะมีตั๋วยืนแบบนี้ให้จองนะ
ป้ายบอกทางใดๆ เค้าชัดเจนมาก หากกลัวหลงหรืองงทิศทาง สามารถเดินไปตามเสาต่างๆ ก็จะมีป้ายบอกทิศทางทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษประกอบเลย
ถ้าสัมภาระเยอะแบบเราแวะไปหาลิฟท์ลงก็สะดวกดีนะ… ในสถานีมีลิฟท์ให้ใช้ มองหาง่าย อยู่ริมๆ ทางเดินเลย กดลิฟท์ลงไปที่ชั้น B2 เพื่อขึ้นรถไฟใต้ดิน Line1 สายสีแดง / Line4 สายสีเขียวได้เลย!
อย่าลืมเปิดบัตร Metro ในแอปฯ Ali Pay ด้วยนะ!! พอย้ายเมืองจาก Shanghai มาที่ Hangzhou แล้ว ต้องเปิดบัตรใหม่ของเมืองนี้ด้วยนะ (ดูตรงด้านบน Transport – เลือกให้เป็น Hangzhou) ให้ถูกด้วย!
และต้องยืนยันบัตร Metro ด้วย ชื่อ-นามสกุล และ เลขที่พาสปอร์ต ด้วยนะ
1. เข้าหน้าแอป Alipay ไปที่ Transport แล้วเลือกเมนู Metro
2. เลือกเปลี่ยนเมืองเป็น HangZhou
3. เลือก Activate “Hangzhou Metro Code”
4. อ่านเงื่อนไขต่างๆ แล้วเลื่อนขึ้นเพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว
5. ติ๊กถูกตรงเงื่อนไขด้วยนะ แล้วกดปุ่ม Agree and obtain card
6. เสร็จเรียบร้อย! กดปุ่ม Use now เพื่อเริ่มใช้งานได้เลย
7. แสดง Hangzhou Metro Code สำหรับจ่ายเงินได้เลย
1. เข้าหน้าแอป Alipay ไปที่ Transport แล้วเลือกเมนู Metro
2. เลือกเปลี่ยนเมืองเป็น HangZhou
3. เลือก Activate “Hangzhou Metro Code”
4. อ่านเงื่อนไขต่างๆ แล้วเลื่อนขึ้นเพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว
5. ติ๊กถูกตรงเงื่อนไขด้วยนะ แล้วกดปุ่ม Agree and obtain card
6. เสร็จเรียบร้อย! กดปุ่ม Use now เพื่อเริ่มใช้งานได้เลย
7. แสดง Hangzhou Metro Code สำหรับจ่ายเงินได้เลย
1. เข้าหน้าแอป Alipay ไปที่ Transport แล้วเลือกเมนู Metro
2. เลือกเปลี่ยนเมืองเป็น HangZhou
3. เลือก Activate “Hangzhou Metro Code”
4. อ่านเงื่อนไขต่างๆ แล้วเลื่อนขึ้นเพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว
5. ติ๊กถูกตรงเงื่อนไขด้วยนะ แล้วกดปุ่ม Agree and obtain card
6. เสร็จเรียบร้อย! กดปุ่ม Use now เพื่อเริ่มใช้งานได้เลย
7. แสดง Hangzhou Metro Code สำหรับจ่ายเงินได้เลย
1. เข้าหน้าแอป Alipay ไปที่ Transport แล้วเลือกเมนู Metro
2. เลือกเปลี่ยนเมืองเป็น HangZhou
3. เลือก Activate “Hangzhou Metro Code”
4. อ่านเงื่อนไขต่างๆ แล้วเลื่อนขึ้นเพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว
5. ติ๊กถูกตรงเงื่อนไขด้วยนะ แล้วกดปุ่ม Agree and obtain card
6. เสร็จเรียบร้อย! กดปุ่ม Use now เพื่อเริ่มใช้งานได้เลย
7. แสดง Hangzhou Metro Code สำหรับจ่ายเงินได้เลย
1.เข้าไปที่การตั้งค่า จากนั้นเลือกเมนู “ทั่วไป”
2.เลือกเมนู “ภาษาและภูมิภาค”
3.เลือกเมนู “ปฏิทิน”
4.เลือก “คริสต์ศักราช”
** ที่หางโจวก็มีด่านตรวจ+สแกนสัมภาระด้วยเช่นกันนะ
ตอนปี 2021 นั้นที่นี่ยังมีรถไฟใต้ดินแค่ 7สาย ทำให้การเดินทางในเมืองต้องพึ่งรถบัสซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ผ่านมาปี 2024 ตอนนี้รถไฟใต้ดินเค้ามีถึง 12 สายแล้ว! สะดวกมากก