Okayama Castle (岡山城, Okayama-jō)
พากลับมาที่ปราสาทโอคายาม่าอีกรอบนึงในตอนเช้ามืด ลมสงบนิ่ง เห็นภาพปราสาทสะท้อนผิวน้ำที่เหมือนกระจกในตอนเช้า สวยไม่ซ้ำกับช่วงกลางวันถ้า
ใครมาค้างที่เมืองนี้แนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเช้าๆเลยนะ ชิลมากกกก
บรรยากาศริมแม่น้ำอาซาฮี ที่ล้อมรอบตัวปราสาทอีกาดำยามเช้าอากาศเย็นสบายๆคนไม่พลุกพล่านเหมือนกลางวัน เดินเล่นได้เพลินๆเลยล่ะ
- เวลาทำการ: 9:00-17:30 น. (เข้าได้ถึง 17:00 น.)
- ***บางครั้งจะเปิดในเวลากลางคืนสำหรับกิจกรรมต่างๆ ฯลฯ
- ปิดทำการ: วันที่ 29 ถึง 31 ธันวาคม / (อาจมีการปิดชั่วคราวเนื่องจากการตรวจสอบ สภาพอากาศที่มีพายุ ฯลฯ)
- Okayama Castle Map: https://maps.app.goo.gl/x9kaW8kB7voyGcG98
- การเดินทาง: นั่งรถรางสาย2สีแดง จากสถานี JR Okayama มาลงที่ป้าย Shiroshita แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
Okayama City of Street Photo อีกอย่างนึงที่แอดและทีมชอบมากๆในเมืองโอคายาม่านี้ ก็คือความชิลของที่นี่นั่นเอง
เมืองเงียบๆไม่วุ่นวายได้บรรยากาศญี่ปุ๊นญี่ปุ่น…มีร้านเท่ๆ ร้านค้า อาคารสวยๆที่ดูฮิปๆ กับตึกบ้านแบบญี่ปุ่นเก่าๆแทรกตัวอยู่ทั่วเมือง
แวะมาเดินเล่นชิลๆหามุมถ่ายรูปสตรีทที่นี่ รับรองว่าสนุกมากๆ ได้รูปสวยๆเท่ๆกลับไปโพสโซเชียลได้เพียบบบ!!
เดินมาอีกนิดนึงก็มีคาเฟ่เล็กๆเก๋ๆแทรกตัวอยู่ติดกับบ้านญี่ปุ่นแบบเดิมๆด้านข้างละ นี่ล่ะที่ทำให้ชอบเมืองนี้ ^^
ดินกลับมาเห็นตรงถนนช้อปปิ้งในยามเช้าที่ร้านค้ายังไม่เปิดกัน ดูเหงาๆได้ฟิลดีงาม
เลยหยิบกล้องมากดชัตเดอร์เก็บไว้อีกสักรูปละกัน ^^
Okayama เมืองเงียบๆไม่วุ่นวายได้บรรยากาศญี่ปุ๊นญี่ปุ่น…อีกอย่างที่พวกเราชอบก็คือเจ้ารถราง Okaden นี่ล่ะ
เดินเล่นหามุมถ่ายรูปสตรีทกับรถรางได้หลายมุมเลยล่ะ!
กระเป๋าเดินทางสีแจ่มๆแบบในรูปนี้เป็นกระเป๋าเดินทางของ KIKI Luggage กระเป๋าเดินทาง รุ่น VAMO Fridge ทรง Trunk ทริปนี้เราหยิบสี เหลือง กับ ม่วงลาเวนเดอร์ ติดมือมาเที่ยวด้วยกัน
น้องเป๋ารุ่นนี้สีสันสดใส ลากไปไหนใครก็มองตาม 555
KIKI Luggage รุ่น VAMO Fridge ทรง Trunk (เหลือง ขนาด 32″ และม่วงขนาด 30″)
- วัสดุ PC (Polycarbonate) กันรอย นั่งได้
- วัสดุ PC 100% น้ำหนักเบา ยกถือสบายๆ เนื้อเหนียวทนความร้อนได้ดี
- TSA Lock ล็อกปลอดภัย ลุยได้ทั่วโลก
- ด้ามจับแข็งแรง
- มุมขอบกระเป๋ากันกระแทก
- ล้อหมุนได้รอบทิศทาง
- มีทั้งหมด 8 สี: เหลือง, ชมพูพาสเทล, ม่วงลาเวนเดอร์, ฟ้าพาสเทล, ดำ, ขาว, ส้ม, เขียว
- จุของได้เยอะ
- ด้านในมีแผ่นกั้นแบบซิปพร้อมสายรัด
ไปเที่ยวกันต่อเลยดีกว่า…นั่งรถไฟไปแปบเดียวก็มาถึงที่เที่ยวของวันนี้ที่ เมืองคุราชิกิ (Kurashiki) ในจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) กันแล้ว!!
เมืองคุราชิกิ อยู่ใกล้ๆกันกับโอคายาม่าใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 15 นาที เมืองเล็กคนไม่พลุกพล่านวุ่นวาย ออกแนวเรโทรย้อนยุคเก่าๆขลังๆ เข้ากันกับธีมของเมืองที่มีจุดท่องเที่ยวดังเป็นเขตเมืองเก่า ดูเอาจากสถานีรถไฟก็ได้นะ^^
แค่เดินตามถนนไปทางเขตเมืองเก่าก็จะเห็นตึกทั้งเก่าและใหม่ขึ้นเรียงรายสลับกันไป แอดชอบก็ตรงที่เค้าคุ้มโทนธีมของเมืองแต่ละแห่ง อาคารบ้านเรือนต่างๆก็ออกแบบใช้สีและวัสดุตกแต่งให้ไม่หลุดธีมไปไกล ดูแล้วเมืองแต่ละที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดีจังเลย!
วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Okayama นั่งรถไฟสาย JR Sanyo Line มาลงที่สถานี Kurashiki ใช้เวลาประมาณ 11-17 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถ) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 3 นาที
Kurashiki MAP: https://maps.app.goo.gl/3M1fUK4XNARvieyn8
เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) ที่ เมืองคุราชิกิ สถานที่ท่องเที่ยวดังของโอคายาม่าที่นทท.นิยมมากันสุดๆ
ที่นี่ถูกจัดให้เป็นเขตอนุรักษ์ เพราะสิ่งปลูกสร้างโบราณหลายแห่งภายในเมืองคุราชิกินั้นถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงสมัยเมจิ (ประมาณปี ค.ศ. 1603 – 1912) ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศค้าขายกับชาวตะวันตกนั่นเอง
เสน่ห์ของเมืองเก่าแห่งนี้ อยู่ที่บรรดาร้านค้า และบ้านช่องในโซนเมืองเก่าที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและตะวันตก
อาคารแบบร่วมสมัยต่างๆ ร้านค้าในโซนถนนคนเดิน รวมไปถึงบ้านโบราณแบบเก่าที่ปลูกสร้างด้วยกำแพงดินสีขาวของร้านค้าและโกดังและที่เรียงรายไปตลอดเส้นข้างทางคลองสายเล็กๆ
ขนาดตู้กดน้ำที่วางอยู่ตามถนนยังมีการแรพสติ๊กเกอร์ให้เป็นสีสันและลวดลายแบบเดียวกับอาคารที่ตั้งวางอยู่เพื่อคุมโทนเกือบทุกตู้เลย
อาคารต่างๆในเมืองนั้นถูกดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ลานเบียร์ ได้อย่างลงตัวเลย เป็นอีกเมืองนึงที่เรามาแล้วรึกสึกหลงรักขึ้นมาทันที…ก็เมืองมันเก๋อะนะ ^^
ของอร่อยที่ห้ามพลาดต้องนี่!!! Kaeshi Sushi เบนโตะลับสับขาหลอก เมนูพื้นเมืองประจำ Okayama
ดูรีวิวเต็มได้ที่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/posts/Kaeshi-Sushi
วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Okayama
นั่งรถไฟสาย JR Sanyo Line มาลงที่สถานี Kurashiki ใช้เวลาประมาณ 11-17 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถ) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 3 นาที
Kurashiki Bikan Historical Quarter MAP: https://maps.app.goo.gl/VVSS5T18KQdGLMVE7
GPS: 34.60274144547239, 133.76768675178002
เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) ที่ เมืองคุราชิกิ ที่นี่เค้ามีบริการล่องเรือชมวิวชิลๆด้วนะ
แต่พวกเราแค่เดินก็ฟินแล้วล่ะ…บรรยากาศดีๆริมน้ำ สองข้างทางเป็นร้านรวงที่ดัดแปลงจากอาคารดั้งเดิม ถ่ายรูปได้เพลินๆตลอดทาง เป็นอีกที่นึงที่พวกเราชอบมากในโอคายาม่านี้เลยจ้า!!
อุโมงค์ทางลอดในเขตเมืองเก่าคุราชิกิ แค่ตรงนี้ยังดูเท่เลย 55
เดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆที่ เขตเมืองเก่า คุราชิกิบิคัง เสร็จแล้ว ก่อนกลับแนะนำที่นี่เลยจ๊ะ!!!
แวะละลายทรัพย์กันก่อนกลับไปนอนพักที่โอคายาม่ากันซะหน่อย! ตรงแถว สถานีรถไฟ Kurashiki จะมีห้างฯให้เดินช้อปอยู่นะ นอกจากห้างฯ Ario ที่เห็นแล้ว เดินต่อไปอีกนิดนึงก็จะมี Mitsui Outlet Park Kurashiki ให้ช้อปกันด้วยจ้าาา++
มีร้านแบรนด์ดังทั้ง New Balance, Nike, Vans, Adidas, Under Armour และอื่นๆ อีกเพียบ
ดูรีวิว Mitsui Outlet Park Kurashiki ต่อได้ที่นี่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/posts/Mitsui-Outlet-Park-Kurashiki
เช็ครายชื่อร้านค้าและแผนที่ช้อปปิ้งของ Mitsui Outlet Park Kurashiki ได้ที่นี่ >>> https://mitsui-shopping-park.com/mop/kurashiki/english/
- เวลาเปิด-ปิด: 10.00-20.00 น.
- ที่อยู่: 12-3 Kotobukicho, Kurashiki, Okayama 710-0813, Japan
- Mitsui Outlet Park Kurashiki MAP: https://maps.app.goo.gl/zeJSBFz8fWUb38iz8
ปราสาทฮิเมจิ Himeji (姫路市, Himeji-shi) หนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในญี่ปุ่น มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี และยังเป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิม 12 แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพอยู่ ที่นี่เป็นทั้งสมบัติชาติญี่ปุ่น และแหล่งมรดกโลก
ด้วยรูปทรงของปราสาทมีลักษณะคล้ายนกกางปีกและสีขาวสะอาดของผนังและหลังคา คนมักเรียกกันอีกชื่อเรียกอีกอย่างว่าปราสาทฮาคุโระ (หรือปราสาทชิราซากิ ซึ่งแปลว่า นกกระสาขาว)
เรานั่ง Shinkansen ออกจาก Okayama แวะลงที่สถานี Himeji เพื่อลงไปเดินถ่ายรูปกับปราสาทฮิเมจิสีขาวสักหน่อย หลังจากถ่ายปราสาทสีดำมาแล้ว ^^
การเดินทาง: นั่งรถไฟด่วน Shinkansen จากสถานี Okayama มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 40นาที
จากสถานี Himeji ไปปราสาทฮิเมจิ เดินออกจากประตูทางออกทิศเหนือของสถานีฮิเมจิไปตามถนนโอเตมาเอะโดริไปยังตัวปราสาท ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ปราสาทฮิเมจิ Himeji (姫路市, Himeji-shi) Map: https://maps.app.goo.gl/ysukDbbrub3GcrNRA
วันนี้แวะหลายที่หน่อยนะ 555….ออกจาก Himeji แล้วไปต่อกันที่ Kobe โกเบ เมืองแห่งของอร่อย กันต่อเลยจ้า!!
ส่วนตัวแอดถ้ามีโอกาสได้มาโอซาก้า จะหาเวลาแว่บออกมาที่นี่เป็นประจำเพราะที่นี่ของกินอร่อย ทั้งคาวและหวานมีให้ชิมครบ!! แถมยังมีโซนไชน่าทาวน์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อยๆอีก เรียกว่าถ้ามาที่นี่ก็คือมากินโลดดดดด!!
การเดินทาง: ถ้ามาจาก Himeji นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงที่สถานี Shin-Kobe (40นาที) แล้วนั่งรถไฟโลคอล Seishin-Yamate Line ไปลงที่สถานี Sannomiya Station
หรือถ้ามาจาก Osaka ก็นั่งรถไฟ Tokaido-Sanyo Line มาลงที่สถานี Sannomiya (40นาที)
Sannomiya Map: https://maps.app.goo.gl/GZ87cExFEN6qiE8K6
ร้านแนะนำประจำทริป! Kobe! Steakland ลองชิมเนื้อโกเบในราคามิตรภาพกันเต๊อะ+++
ร้านดังประจำเมืองโกเบขวัญใจนักท่องเที่ยว Steakland แวะกินเนื้อโกเบราคาสุดประหยัด เสิร์ฟร้อนทุกออเดอร์ เลือกระดับความสุกเนื้อได้ จิ้มสั่งเมนูไปแล้วก็นั่งหน้าเตาดูเชฟทำเพลินๆ
แอดไปกินมื้อเย็น สเต๊กจะเริ่มต้นที่เซตละ 3,200 เยนนะ เสียดายที่มาไม่ทันช่วงมื้อกลางวัน เพราะราคาต่อเซตเริ่มที่ 1,200 เยนเท่านั้น ถูกกว่าครึ่งไปเลยจ้าาา !!
ดูรีวิวต่อได้ที่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/posts/Kobe-Stakeland
- Steakland Kobe-Kan
- ร้านเปิด 2 ช่วง 11.00-14.00 น. และ 17.00-21.00 น.
- Kobe! Steakland MAP: https://maps.app.goo.gl/BbbmePikvYNEcAFZ7
แนะนำของอร่อยที่ห้ามพลาด!! ชีสเค้กร้านดัง Kannonya Cheesecake (Denmark Cheesecake) ชีสยืดเค้กนุ่ม โคตรอร่อยยยย!!! เมนูอร่อยประจำร้านที่ต้องนั่งรถเพื่อมากินให้ได้!!
Kannonya Cheesecake (Denmark Cheesecake) ทีเด็ดอยู่ที่เดนมาร์คชีสสูตรลับเฉพาะเยิ้มยืดดดด เค็มๆ มันๆ ทานคู่กับเค้กหวานละมุน สปันจ์เค้กบางด้านล่าง เค็มกับหวานตัดกัน แถมรสมันๆหอมๆของชีสบอกเลยโคตรฟินนนน!!
หน้าร้านหน้าตาเป็นแบบนี้นะ สังเกตไว้เลย ไม่ค่อยมีคนรอต่อคิวยกเว้นบางวันเท่านั้นจ้า
ดูรีวิวได้ที่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/Kannonya Cheesecake
- ชีสเค้กราคาชิ้นละ 400 เยน (รวมภาษีแล้ว)
- เวลาเปิด-ปิด 10.30-21.00 น.
- Kannonya Cheesecake MAP: https://maps.app.goo.gl/gm4kYkVfaUJTrYqJ9
Review My Stays Shinsaibashi
ที่พักแสนสะดวก ทำเลดีงามเดินทางไปแหล่งช้อปปิ้งที่ถนนชินไซบาชิได้ง่ายๆแค่ข้ามถนนไปก็ถึงแล้ว (ประมาณ 100ม.)
ห้องพักกว้างขวางได้อยู่ (ถึงจะเล็กเล็กกว่าห้องที่ผ่านมาทั้ง Nest Hotel Hakata, Smile Hotel Okayama)
สำหรับโรงแรมในเมืองใหญ่ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ห้องกว้างขนาดมีที่วางชุดนั่งเล่น+โซฟาเล็กๆแบบนี้ถือว่ากว้างมากแล้วล่ะนะ
เตียงเดี่ยวกว้างนอนได้ไม่อึดอัดเกินไป มีชุดนั่งเล่นโซฟาเล็กๆ ตู้เย็น กระติกต้มน้ำร้อนครบ!
ห้องพักและห้องน้ำสะอาดดี ห้องน้ำกว้างพอประมาณนะ ไม่แคบจนอึดอัด
ส่วนล็อบบี้ขนาดกะทัดรัด มีโต๊ะนั่งรอกับ โซฟานั่งพัก ให้ใช้อยู่ 2 มุม มีห้องส่วนกลางตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ / ตู้กดน้ำ และ ไมโครเวฟอยู่ใกล้ๆกัน
ส่วนของใช้ในโรงแรมต่างๆที่นี่มีให้ครบเช่นกันจ้า!! มีชั้นวางตั้งอยู่ล็อบบี้สามารถหยิบไปใช้ได้เลย
My Stays Shinsaibashi Map: https://maps.app.goo.gl/TXNwEDWwWBqeCdo36
Review Nest Hotel Osaka Shinsaibashi
ที่พักอีกที่นึงอยู่ใกล้ๆกับถนนช้อปปิ้งชินไซบาชิเหมือนกัน (ประมาณ 600ม.) ถ้าเดินขึ้นจากสถานี Nagahoribashi Station จะใกล้กว่า
แนะนำให้เดินไปทางถนนช้อปปิ้งใต้ดิน จะเดินได้สะดวก เพลินๆกว่า ^^
ห้องพักพื้นที่กว้างขวางมีเตียงเดี่ยวขนาดกลางๆ ไซซ์โรงแรมในเมืองก็จะประมาณนี้ล่ะนะ
เตียงเดี่ยวกว้างนอนได้ไม่อึดอัดเกินไป มีชุดโต๊ะทำงาน+เก้าอี้ ตู้เย็น กระติกต้มน้ำร้อนครบ!
ห้องพักสะอาดดี แต่ห้องน้ำดูโทรมไปนิดนึง แต่ดีที่ไม่แคบจนอึดอัดเกินไป
ส่วนล็อบบี้ มีที่วางไมโครเวฟ และ มีชั้นวางของใช้ในโรงแรมต่างๆตั้งอยู่ล็อบบี้สามารถหยิบไปใช้ได้เลย
Nest Hotel Osaka Shinsaibashi Map: https://maps.app.goo.gl/FRcwSB6mrHPfusT58
Dotonbori Glico Sign ป้ายกูลิโกะที่โดทนโบริสัญลักษณ์ของโอซาก้า จุดเช็คอินมหาชน ใครที่มาถึงโอซาก้าต้องแวะมาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่สักครั้งนึงแน่นอน^^
ตรงนี้นอกจากจะเป็นจุดเช็คอินแล้วยังไปย่านช้อปปิ้งหลักของโอซาก้าด้วยนะ สามารถเดินช้อปปิ้งของกินของฝาก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง ฯ บนถนนชินไซบาชิ
แล้วไปเดินหาของกินสตรีทฟู๊ดอร่อยๆในย่านโดทนโบริต่อได้เลย
แต่บอกก่อนว่าคนเยอะแบบโคตรเยอะมากกกกก ยิ่งช่วงค่ำยิ่งเยอะมากมหาศาลเลยทีเดียว
ใครที่ไม่ชอบคนเยอะแบบแน่นเกินไป ก็องแวะมาช่วงสายๆบ่ายๆคนจะน้อยกว่านะ
Dotonbori Glico Sign Map: https://maps.app.goo.gl/vtq3gkVVv4ribYGb8
Dotonbori! ทาโกะยากิ Acchichi Honpo
ทาโกะยากิเจ้าดังแห่งย่าน Dotonburi ร้านดังคิวยาวอีกร้านนึงที่แอดอยากแนะนำ!!
แป้งทาโกะนุ่มๆร้อนๆ ยัดไส้ปลาหมึกชิ้นใหญ่ ราดซอสฉ่ำๆ อร่อยคุ้มค่าน่าต่อคิวสุดๆจ้าาา!!
ราคาเริ่มต้น 600 เยน
ดูรีวิวต่อได้ที่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/Acchichi Honpo Takoyaki
Acchichi Honpo Dotonbori ร้านจะอยู่เชิงสะพาน Tazaemon Bridge ตรงหัวมุมเลย สังเกตหน้าร้านจะมีโคมไฟกระดาษรูปปลาหมึกสีแดงอยู่นะ
Acchichi Honpo Takoyaki Map: https://maps.app.goo.gl/STzYk3w2hQfNb3Er7
Kani Doraku Dotonbori Main Branch ร้านปูใหญ่!…ใครว่าแพง???
แวะโอซาก้ามากินสารพัดเมนูปูกันที่ร้าน Kani Doraku สงเกตง่ายๆก็ร้านที่มีปูตัวใหญ่ๆขยับอยู่ที่หน้าร้านนั่นแหละ!!
ได้ยินว่ามีคนบอกว่าร้านนี้ราคาแพง…แต่จริงๆแล้วก็มีชุดอาหารกลางวันที่ราคาจับต้องได้อยู่ (เริ่มต้นที่ 3,300เยน รวมภาษี) แถมยังอร่อยด้วยนะ ลองแวะมากินกันดูไ้ด้รับรองว่าจะติดใจ!!!
นอกจากเมนูปูที่ขายในร้านแล้ว ที่หน้าร้านยังชอบมีเมนูปูใหม่ๆมาทำขายอยู่เรื่อยๆ
รอบนี้ที่เราไปเลยได้ลองชิมเมนู
- ซาลาเปาปู ลูกละ 500 เยน
- ไอติมปู ถ้วยละ 500 เยน
ไอติมก็อร่อยเค็มๆหวานๆดีนะ 555 แต่ซาลาเปานี่โอเคมากกกกก…เริ่ดด!!! ตู้ซาลาเปาและไอติมจะอยู่หน้าร้านเลยจ้าาา
พิกัด: 1 Chome-6-18 Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071, Japan
Kani Doraku Dotonbori Main Branch MAP: https://maps.app.goo.gl/YhdtAXwFzf3PmZV36
มาโอซาก้าแล้วต้องแวะมานี่ด้วย!! Kyoto เมืองเก่าที่มีแต่ของสวยๆงามๆ นั่งรถออกมาจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้ว
ที่นี่คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากเนอะ ทุกคนน่าจะเคยได้ยินชื่อกันมาเยอะแล้ว ว่ามีที่เที่ยวสวยๆเพียบ!!
การเดินทาง: เริ่มต้นจากสถานี Shinsaibashi St. นั่งรถไฟโลคอลสายสีแดง Misudoji Line (3 สถานี) มาลงที่สถานี Umeda (ใช้บัตร JR Pass ไม่ได้นะ)
แล้วต่อรถด่วนจากสถานี Umeda ไปลงที่สถานี Kyoto (45นาที) << ใช้ JR Setouchi Passได้
Kyoto Map: https://maps.app.goo.gl/B8QDGtVZzwnXw7Xh6
มุมนี้ขอแก้มือ!!…. มุมโทริอิสีแดงนับพันที่ ศาลเจ้า Fushimi Inari ครั้งก่อนโน้นนนแอดเคยมาถ่ายแล้วแต่เจอคนเยอะจนไม่ได้รูปกลับไป
คราวนี้กลับมาใหม่จบได้รูปติดมืออย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคราวนี้เดินเข้ามานิดหน่อยก็เจอแถวรอคิวถ่ายรูปกันที่จุดพักจุดแรก ได้มุมสวยๆกลับบ้านสบายๆไม่ต้องเดินไกล555
แค่ยืนรอคิวนิดน่อยก็เสร็จละ สบายจุยยย ^^
การเดินทาง: จากสถานี Kyoto นั่งรถไฟโลคอลสายสีน้ำตาล Nara Line ไปลงที่สถานี Inari Station (2 สถานี/ 6นาที) << ใช้ JR Setouchi Passได้
แล้วเดินจากสถานีไปที่ศาลเจ้า Fushimi Inari ประมาณ 5นาที
Fushimi Inari Shrine Map: https://maps.app.goo.gl/j2Rj1LjYnknLFsb68
ขบวนรถพิเศษ Kansai-Airport Express Haruka Hello Kitty วิ่งจากสนามบินคันไซ เข้าเมืองโอซาก้าและวิ่งยาวไปจนถึงเมืองเกียวโตเลย
- Tennoji (35นาที)
- Osaka Umeda(45นาที)
- Shin-Osaka(50นาที)
- Kyoto(75นาที)
ใครที่ชอบรถไฟอยากลองนั่งรถไฟลิมิเตดน่ารักๆดูสักครั้ง ก็ลองเลือกจองกันดูนะจ๊ะ!!
เตรียมกลับเข้าโอซาก้ากันดีกว่า…ก่อนกลับอย่าลืม เดินไปที่หน้า สถานี Kyoto จะมีหอคอยเกียวโตสูงๆอยู่ด้านหน้า ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึกหน่อยก่อนกลับบ้านก็ดีนะ ^^
ย่านท่องเที่ยวอีกที่นึงที่แนะนำ ใครที่มาโอซาก้าแล้วอย่าเดินเล่นเพลินแค่ที่ Shinsaibashi นะ ลองแวะมาเดินแถว Namba ดูหน่อย ย่านนี้ก็มีแหล่งช้อปปิ้งกินเที่ยว เยอะไม้แพ้กันเลยล่ะ!!
เดินต่อจากนัมบะไปอีกไม่ไกล ก็จะเป็นโซน Den Den Town ย่านขายของเล่น อนิเมะ ฟิกเกอร์ เกมส์ต่างๆ (เหมือนกับที่อากิฮาบาระ) แถวนี้เดินเล่นได้ทั้งวันเลย
เย็นวันสุดท้ายนี้พวกเราเตรียมหอบกระเป๋าไปนอนคืนสุดท้ายกันที่ Rinku Town ใกล้ๆกันกับสนามบินคันไซ เพราะเดินทางกลับไฟลท์เช้ามาก เลยเอาสบายๆไม่ต้องรีบมากตอนเช้า
ขาออกจากเมืองเราใช้บัตร JR Setouchi Area Pass กันจนสุดท้ายท้ายสุดเลยทีเดียว555
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR จากสถานี Tennoji ให้ขึ้น รถไฟ Hanwa Line Kanku-Rapid Kansai-Airport ตู้ที่ 1-4 ที่จะไปส่งถึงสนามบินเลย (ถ้านั่ง ตู้หลัง 4-8 ต้องเดินเปลี่ยนตู้มาด้านหน้าตอนที่ขบวนรถเปลี่ยนสายนะ)
สังเกตป้ายที่ผนังกั้นรถไฟ และ สติ๊กเกอร์ที่พื้นจะมีแจ้งบอกให้คนที่จะนั่งรถไฟไปสนามบิน เลือกนั่งที่ตู้โดยสาร 1-4 ตลอดสถานีเลย
มาถึงที่ Rinku Town กันแล้ว เราเข้ามาเช็คอินพักกันที่ OMO Kansai Airport by Hoshino Resorts
OMO Kansai Airport by Hoshino Resorts Map: https://maps.app.goo.gl/GZ87cExFEN6qiE8K6
Review OMO Kansai Airport by Hoshino Resorts
เดินออกมาจากสถานีรถไฟตามสะพานทางเดินแค่แปบเดียวก็ถึงที่รร.แล้ว
รร.ดีงามสุดๆๆๆ++ใหม่ สะอาด ห้องใหญ่ นอนสบาย เตียงนุ่ม หมอนนุ่ม ฟินนนสุดๆๆ
Lobby โรงแรมกว้างขวาง ตกแต่งสวยงามเลย มีเครื่องเช็คอินให้เช็คอินด้วยตัวเองเลย
ใน Lobby มีโซนที่วางของใช้ในโรงแรมห้หยิบใช้ตามสะดวกอยู่ใกล้ๆกับโถงลิฟท์
ห้องพักเตียงคู่ เตียงกว้างมากนอนสบาย หมอนนุ่ม ดีงามอ่ะ!!
ในห้องมีส่วนเคาน์เตอร์ยาวทำเป็นโต๊ะทำงาน + อ่างล้างหน้า และ ชั้นวางตู้เย็นซ่อนอยู่ด้านล่าง
ห้องน้ำที่นี่แยกโซนส่วนแห้ง กับ เปียก เป็น 2 ห้อง ฝาชักโครกมีรีโมทกดเปิดปิดได้ด้วย 555
ด้านล่างโรงแรมมี Lawson อยู่ชั้นล่าง ซื้อของกินของใช้ได้สะดวกเลย
OMO Kansai Airport by Hoshino Resorts Map: https://maps.app.goo.gl/bv8xnc4AyuqnnCbY8
แวะช้อปละลายทรัพย์กันก่อนกลับบ้านอีกสักที!!! เผื่อตังค์ยังมีเหลือต้องเผาให้เกลี้ยง อิอิ
ใครที่มานอนที่ Rinku Town ถ้ามีเวลาเหลือเยอะหน่อย อย่าลืมเผื่อมาเดินเล่นช้อปปิ้งกันที่ Rinku Premium Outlets ที่นี่มีร้านแบรนด์ให้ช้อปเพียบ!!!
ร้านรองเท้าดังๆ Nike, Adidas, New Balance ฯ มีครบเลยล่ะ!! ลองแวะไปดูกันได้นะ ที่นี่ของให้ช้อปมีเยอะเลยยย!!
Rinku Premium Outlets Map: https://maps.app.goo.gl/UJf3xrj5afUzKcJSA
รายชื่อแบรนด์ที่มี >>> https://www.premiumoutlets.co.jp/en/rinku/brands/?tab=1
กินซูชิก่อนกลับบ้านกันอีกสักมื้อ…แอดแนะนำร้าน Daiki SuiSan ซูชิจานหมุน อิ่มอร่อยราคาเบ๊าเบาาาา เริ่มต้นจานละร้อยเยน!!!
ร้านสุดคุ้ม Daiki SuiSan ร้านซูชิจานหมุนที่ Rinku Town พร้อมเสิร์ฟในราคามิตรภาพ อิ่มอร่อยเริ่มต้นเพียง 100 เยนเท่านั้น
- ราคาเริ่มต้น 100 เยน
- เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 21:30 น.
Daiki SuiSan MAP: https://maps.app.goo.gl/BUzW8nWjKhKGWwgH8
ดูรีวิวฉบับเต็มได้ที่ >>> https://www.facebook.com/promotion2u/Daiki SuiSan
Kansai Airport จุดหมายสุดท้ายของทริปญี่ปุ่นเราแล้วจ้าาา!!
ใครที่จะใช้ JR Pass มาที่นี่ก็สามารถใช้มาได้ง่ายๆเหมือนกันนะ…
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR จากสถานี Tennoji ให้ขึ้น รถไฟ Hanwa Line Kanku-Rapid Kansai-Airport ตู้ที่ 1-4 ที่จะไปส่งถึงสนามบินเลย (ถ้านั่งตู้หลัง 4-8 ต้องเดินเปลี่ยนตู้มาด้านหน้าตอนที่ขบวนรถเปลี่ยนสายนะ)
สังเกตป้ายที่ผนังกั้นรถไฟ และ สติ๊กเกอร์ที่พื้นจะมีแจ้งบอกให้คนที่จะนั่งรถไฟไปสนามบิน เลือกนั่งที่ตู้โดยสาร 1-4 ตลอดสถานีเลย
ส่วนใครที่นั่งเครื่องมาลงที่สนามบินคันไซ ต้องการใช้บริการของ JR ไม่ว่าจะนั่งรถไฟเข้าเมือง หรือ มาแลกตั๋ว JR Pass สามารถเดินมาใช้บริการของ JR Ticket Office ได้ที่สถานีรถไฟที่อยู่อีกฝั่งนึงของอาคารผู้โดยสาร
เดินมาอีกนิดนึง ก็จะโถงกว้างด้านซ้ายมือจะเป็นตู้ขายบัตรโดยสาร และอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นเกททางเข้าไปขึ้นรถไฟเดินทางเข้า-ออกเมือง ที่นี่จะแบ่งเป็นของ Nankai (สีส้ม) กับ JR (สีฟ้า) อยู่คนละฝั่งกันนะ
เดินทางครั้งนี้เราบินด้วย สายการบิน ThaiVietJet เจ้านี้เค้ามีเปิดรูทบินญี่ปุ่นหลายเส้นทาง
- สุวรรณภูมิ – ฟุกุโอกะ
- เชียงใหม่ – โอซาก้า
และเร็วๆนี้จะมีรูทบินญี่ปุ่นเปิดใหม่เพิ่มอีก!!!
อย่าติดตามโปรโมชั่นเด็ดๆจาก ThaiVietJet และ Skyfun Travel กันได้ที่เพจ Promotion2U เลยจ้าาา!!